ฝรั่งปลูกง่าย ได้รับประทานจริง
ถ้าพูดถึงต้นไม้ที่ให้ผล "ฝรั่ง" เป็นต้นไม้ประเภทหนึ่งที่สามารถปลูกได้ทุกครัวเรือน ปลูกและได้ผลจริง เพราะส่วนตัวได้ทดสอบกับตัวเองมานานหลายปี ได้รับประทานผลฝรั่งตลอดมา ถึงแม้ว่า บางครั้ง ก็แอบโดนแมลงเจาะทำให้ผลเน่าไปบ้าง แต่โดยรวมๆ แล้วก็ยังสนุกกับการดูการเจริญเติบโตของฝรั่ง
เรามาดูกันหน่อยไหมว่า กว่าจะเป็นผลฝรั่งให้เราได้รับประทานอย่างเอร็ดอร่อยนั้น จะมีพัฒนาการเจริญเติบโตจากดอกเล็กๆ สีขาว จนมาเป็นผลฝรั่งที่สวยงานได้อย่างไร
พัฒนาการหลังจากฝรั่งออกดอก จนเป็นผล
การพัฒนาการเจริญเติบโตของต้นฝรั่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่:
1. การเพาะเมล็ด
- การเลือกเมล็ด: ใช้เมล็ดจากฝรั่งที่สุกเต็มที่และมีคุณภาพดี
- การเตรียมดิน: ควรใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี โดยอาจผสมดินปลูกกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การเพาะเมล็ด: หยอดเมล็ดลงในดินประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้วรดน้ำให้ชุ่ม โดยควรทำการคลุมด้วยฟางหรือพลาสติกใสเพื่อรักษาความชื้น
2. การเจริญเติบโตเป็นต้นอ่อน
- ระยะเวลา: หลังจากการเพาะเมล็ดประมาณ 2-4 สัปดาห์ เมล็ดจะเริ่มงอก
- การดูแล: รักษาความชื้นในดิน และให้แสงแดดเพียงพอ ต้นอ่อนจะมีใบแรกประมาณ 2-4 ใบ
- การป้องกันโรค: คอยดูแลไม่ให้มีโรคหรือแมลงเข้าทำลาย โดยสามารถใช้สารเคมีหรือวิธีการทางธรรมชาติ
3. การเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่
- การปลูก: เมื่อมีอายุประมาณ 2-3 เดือน ต้นอ่อนสามารถย้ายปลูกลงดินได้ โดยเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 เมตร
- การบำรุง: ให้ปุ๋ยในระยะที่เหมาะสม เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโต
- การดูแล: รดน้ำสม่ำเสมอ และควรตัดแต่งกิ่งเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดี
เมื่อผ่านขั้นตอนทั้งหมด ต้นฝรั่งจะเจริญเติบโตเป็นต้นใหญ่ที่สามารถให้ผลผลิตได้ในระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และสภาพแวดล้อมในการปลูก
อย่าลืมที่เคยแนะนำไปในหลายๆ ครั้ง หลังจาก "ผลฝรั่ง" มีขนาดใหญ่ประมาณเหรียญบาท แนะนำให้รีบห่อด้วยถุงพลาสติก หรือจะห่อด้วยกระดาษซ้ำอีกครั้งก็ได้ เพื่อช่วยลดปัญหาแมลงวันทองเจาะเข้าไปวางใหญ่ ดูภายนอกอาจไม่เห็น แต่พอผลใหญ่ขึ้น หนอนก็จะเจาะกินเนื้ออันหอมหวานจากภายใน ทำให้ไม่สามารถรับประทานผลได้ สรุปอด..
- ห่อด้วยถุงพลาสติก เพื่อป้องกันแมลงวันทองเข้าไปวางไข่
- ห่อด้วยกระดาษ เพื่อให้ผลมีสีสรรสวยงาม
ผลลัพธ์ หลังจากแกะถุงพลาสติกออก
0 ความคิดเห็น